นักทฤษฎีคนแรกที่จะพูดถึงคือ
ฟรอยด์ เป็นชาวออสเตเรียมีความเชื่อด้านบุคลิกภาพ การวิเคราะห์ของฟรอยด์ด้านบุคลิกภาพ การตอบสนองขั้นพื้นฐานทางด้านสรีระหรือเรียกว่าแรงขับโดยสัญชาติญาณมี 3 ประเภท ได้แก่ แรงขับทางเพศหรือความต้องการตอบสนองทางเพศ
(libido)
แรงขับหรือความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่
(life-preserving
drive) และแรงขับหรือความต้องการที่จะแสดงความก้าวร้าว
(aggressive
drive)
โครงสร้างของฟรอยด์
อิด
(Id) หมายถึง
พลังหรือแรงผลักที่มีมาแต่กำเนิด เป็นสันดานดิบของมนุษย์ที่มีแต่ความต้องการสนองสนองแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด
ฟรอยด์เห็นว่าแรงผลักชนิดนี้มีอยู่ในทารก
อีโก้
(Ego) เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบุคลิกภาพที่ได้มีการคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆ
และมีการวางแผน การรู้จักรอคอย ร้องขอหรืออื่น
ๆ เพื่อให้ได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ต้องการ
ซุปเปอร์อีโก้
(Superego)
เป็นส่วนของบุคลิกภาพที่คอยควบคุมหรือปรับการแสดงออกของอิดและอีโก้ให้สอดคล้องกับเหตุผลความถูกผิด
คุณธรรมหรือจริยธรรม
ขั้นตอนของพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ
ขั้นที่ 1 ขั้นปาก (Oral
Stages) อายุแรกเกิด –18
เดือน
ขั้นที่
2 ขั้นทวารหนัก (Anal
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กวัย
2 –
3 ปี
ขั้นที่
3 อวัยวะเพศขั้นต้น (Phallic
Stage) เป็นระยะพัฒนาการบุคลิกภาพของวัย
3 – 5 ปี
ขั้นที่
4 ขั้นพัก/ขั้นแฝง (Latency
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของวัย
5 – 12 ปี
ขั้นที่
5
ขั้นอวัยวะเพศ (Genital
Stage) เป็นระยะสนใจเพศตรงข้าม
วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว
12 ปี
ขึ้นไป
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตสังคมของอีริคสัน
เกี่ยวกับด้านสังคมให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเด็กปฐมวัยพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวพร้อมเลียนแบบคนรอบตัว หากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กดี
เด็กจะมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเองในทางตรงกันข้ามหากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมไม่ดีไม่เอื้อหรือส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของเด็ก
เด็กจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
ไม่ไว้วางใจผู้อื่น ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
ขั้นพัฒนาการตามทฤษฎีของอีริคสัน
ขั้นที่
1 ความรู้สึกไว้วางใจ กับความรู้สึกไม่ไว้วางใจ(Trust
versus Mistrust) ช่วงแรกเกิด
– 1 ปี
ขั้นที่
2 ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง กับความละอายใจและไม่แน่ใจ
(Autonomy
versus Doubt or Shame) ช่วง
1 – 2 ปี
ขั้นที่
3 การมีความคิดริเริ่มกับความรู้สึกผิด (Initiative versus
Guilt) ช่วง
3 – 6 ปี
“ทฤษฎีพัฒนาการทางบุคลิกภาพของอีริคสัน
ได้แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคลตั้งแต่ทารกจนถึงวัยสูงอายุทำให้เป็นแนวทางสำ คัญในการอบรมเลี้ยงดูเด็กโดยเฉพาะในวัยทารก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในวัยต่อไป…”
ได้แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคลตั้งแต่ทารกจนถึงวัยสูงอายุทำให้เป็นแนวทางสำ คัญในการอบรมเลี้ยงดูเด็กโดยเฉพาะในวัยทารก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในวัยต่อไป…”
ทฤษฎีวุฒิภาวะของกีเซล
อาร์โนลด์
กีเซล
(Arnold Gesell) เป็นนักจิตวิทยาที่มี
ความเชื่อในเรื่องของความเจริญเติบโตตามวุฒิภาวะ
โดยกล่าวว่า
“วุฒิภาวะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เชื่อว่าเด็กเกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาซึ่งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมขึ้นการฝึกฝนหรือลักษณะใดก็ตามอย่างมีระเบียบ
โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเร้าภายนอก” แต่จะเกี่ยงข้องกับอายุและช่วงวัยเท่านั้น
ขั้นพัฒนาการของกีเซล
1.
ทิศทางของการพัฒนาการ (development
direction Cephalocaudal -
Proximal distal )
2. พัฒนาการมีความสัมพันธ์กันและเกี่ยวเนื่องกัน
(reciprocal
interweaving)
3. พัฒนาการมีการใช้กิจกรรมร่วมกัน
(functional
asymmetry)
4. การพัฒนาต่าง
ๆ เป็นผลมาจากวุฒิภาวะ (individuating
maturation)
ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้คิดของเพียเจท์
ฌอง
เพียเจท์
(Jean
Piaget) นักจิตวิทยาชาวสวิส ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กและพัฒนาการทางสติปัญญา
ได้อธิบายถึงโครงส้างความคิดเราคนเราที่แสดงออกได้ 2 อย่างคือ
Assimilation
หมายถึง
การที่เด็กนำเอาสิ่งที่ตนรับรู้ใหม่ๆ เข้าไปผสมผสานกลมกลืนกับความรู้เดิมที่มีอยู่
ซึ่งการรับรู้นี้จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กมองเห็นสิ่งใหม่ในแง่ของสิ่งเดิมที่เคยรู้จัก
Accommodation หมายถึง
การนำความรู้ใหม่ที่ได้รับไปปรับปรุงความคิดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้ของเพียเจท์
ขั้นที่
1 ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว
(Sensorimotor
Stage) อายุแรกเกิด – 2 ปี
ขั้นที่
2 ขั้นก่อนการคิดอย่างมีเหตุผล (Preoperational
Stage) อายุ
2 – 7 ปี แบ่งเป็นสองระยะ
- ระยะที่
1 ขั้นก่อนความคิดรวบยอด (Preconceptual
Thought)
อายุ 2 – 4 ปี
- ระยะที่
2 ขั้นคิดได้เองโดยไม่รู้เหตุผล (Intuitive Thought)อายุ
4 – 7 ปี
สรุป เด็กจะเรียนรู้ได้จากประสาทสัมผัส การเคลื่อนไหว เด็กจะเรียนรู้ได้ในรูปนาม
ธรรม
ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
ลอเรนซ์
โคลเบิร์ก
(Lowrence
Kohlberg)
เป็น
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ศึกษาค้นคว้าทางด้านพัฒนาการทางจริยธรรม
ซึ่งได้รับอิทธิพลความคิดและผลงานมาจากเพียเจท์
ขั้นพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก
ระดับขั้นที่
1 Premoral
หรือ Preconventionalวัย 2 – 10 ปี
มี
2 ระยะ
ระยะที่
1 การหลบหลีกการถูกลงโทษ ช่วงอายุ 2 – 7 ปี
ระยะที่
2 การแสวงหารางวัล ช่วงอายุ 7 – 10 ปี
ทฤษฎีพัฒนาการทางความคิดความเข้าใจของบรุนเนอร์
เสนอแนวคิดและการใช้เหตุผล
พัฒนาการทางความคิดความเข้าใจ
เกิดจากสิ่งต่อไปนี้
1. การให้เด็กทำสิ่งต่างๆ
อย่างมีอิสระมากขึ้น
2.
การเรียนสัญลักษณ์ที่ใช้แทนสิ่งต่างๆ
3. พัฒนาการทางความคิด
4.
ผู้สอนและผู้เรียนมีความสัมพันธ์กันอย่างมีระบบ
5.
ภาษาเป็นกุญแจของการพัฒนาด้านความคิด
6. การพัฒนาทางความคิด
พัฒนาการทางสติปัญญาและการคิดของมนุษย์
แบ่งเป็น
3 ขั้น ดังนี้
1.
Enactive
Stage
2. Iconic representation Stage
3. Symbolic representation stage
ลำดับขั้นการสอนอย่างมีเหตุผล
ขั้นที่ 1 เด็๋กจะเรียนรุ้ได้ต้องสัมผัสก่อน
ขั้นที่ 2 การสอนควรเน้นให้เด็กเกิดการพัฒนาขึ้นเพื่อให้เด็กได้รับรู้อย่างแจ่มแจ้ง
ขันที่ 3 จัดให้มีการอภิปรายระหว่างเด็กในกลุ่มที่เรียนร่วมกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ
เนื้อหาที่เรียนเพื่อให้เด็กใช้ภาษาและเกิดการพัฒนาขั้นรูปธรรม
ช่วงท้ายคาบสัปดาห์อาจารย์ก็สั่งงานและเปิดวิดีโอเกี่ยวกับนักทฤษฎีให้ดูและเรื่องฟ้ามีตาตอน ลูกเราน่ารักที่สุดเลย ทำให้ได้เห็นมุมมองการเลี้ยงลูกของละครเรื่องนี้ว่าเป็นยังไง
ประเมินตนเอง ทำให้ทราบถึงแนวความคิดของนักทฤษฎีที่อาจารย์สอนมา
ประเมินเพื่อน เพื่อนๆได้ความรู้เกี่ยวกับแนวความคิดของนักทฤษฎี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น