การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
การอบรมเลี้ยงดู หมายถึง การที่ พ่อ แม่ดูแลเลี้ยงดูลูกปฏิบัติต่อลูกที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคมและด้านสติปํญญา
ความจำเป็นที่ต้องมีพ่อ
เด็กต้องเห็นตังอย่างผู้ใหญ่ชาย
พ่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกชาย
เด็กผู้หญิงจะได้รู้บทบาทผู้ชาย
พ่อช่วยปลูกฝังลักษณะให้แก่ลูก เช่น ความแข็งแกร่งบึกบึน
ความจำเป็นที่ต้องมีแม่
คอยดูแลลูกให้ปฏบัติตามแบบแผน
ช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ดี
สอนให้รักษาความสะอาด
สอนให้ลูกรู้จักเก็บรักษาสมบัติของตนเอง
ความสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก
หมายถึง ความรู้สึกที่พ่อแม่มีต่อลูกและความรู้สึกที่ลูกมีต่อพ่อแม่
ความจำเป็นที่ต้องมีพ่อ
เด็กต้องเห็นตังอย่างผู้ใหญ่ชาย
พ่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกชาย
เด็กผู้หญิงจะได้รู้บทบาทผู้ชาย
พ่อช่วยปลูกฝังลักษณะให้แก่ลูก เช่น ความแข็งแกร่งบึกบึน
ความจำเป็นที่ต้องมีแม่
คอยดูแลลูกให้ปฏบัติตามแบบแผน
ช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ดี
สอนให้รักษาความสะอาด
สอนให้ลูกรู้จักเก็บรักษาสมบัติของตนเอง
ความสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก
หมายถึง ความรู้สึกที่พ่อแม่มีต่อลูกและความรู้สึกที่ลูกมีต่อพ่อแม่
วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย มีดังนี้
1. การสร้างความผูกพันรักใคร่ เป็นพื้นฐานสำคัญในการอบรมเลี้ยงดู พ่อ – แม่ ผู้ปกครองจะต้องเริ่มสร้างความผูกพันรักใคร่ให้เกิดขึ้น ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในวัยแรกเกิด พ่อแม่ ผู้ปกครองได้สัมผัสลูกอย่างอ่อนโยนอุ้มอย่างทะนุถนอม เลี้ยงดูเอาใจใส่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับเด็ก ดูแลความสุขสบายต่าง ๆ พูดคุยกับเด็กด้วยเสียงที่นุ่มนวล เป็นต้น สิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้การอบรมในวัยเด็กได้ผลดีอีกทั้งยังเป็นการสร้างความผูกพันรักใคร่ให้เกิดกับเด็กอีกด้วย
2. ระบบการให้รางวัลทางด้านบวก เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเด็กได้กระทำพฤติกรรมที่พึงปรารถนาจะมีการให้รางวัลหรือสิ่งตอบแทน เช่น ความรัก ความสนใจ
คำชมเชยซึ่งจะทำให้การกระทำนั้น ๆ เกิดขึ้นอีก
3. พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเป็นผู้มีศีลธรรม ประพฤติปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดีงามและถูกต้อง
4. การควบคุมสิ่งแวดล้อม พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องจัดสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เช่น การจัดให้เล่นเกมเพื่อเด็กจะได้รู้จักกฎเกณฑ์ และการรู้แพ้รู้ชนะ การจัดหาหนังสือที่มีประโยชน์อ่านให้เด็กฟัง เพื่อให้เกิดนิสัยรักการอ่าน เป็นต้น
5. วิธีการตอบสนองกลับ เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้พูดเพื่อแสดงความรู้สึกของตนออกมาทั้งทางบวกและทางลบ เมื่อเด็กมีปัญหาพ่อแม่ผู้ปกครองควรตัดสินใจฟังเด็กว่ากำลังพูดอะไร เมื่อเด็กพูดจบพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องสะท้อนความรู้สึกที่เด็กได้แสดงออกกลับไป ด้วยคำพูดของพ่อแม่ผู้ปกครองเอง ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองเป็นที่ยอมรับและมีคุณค่า อันจะส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กเข้าใจได้ตรงกัน
6. การควบคุมพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พ่อแม่ผู้ปกครองควรควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับปัญหา วิธีการที่ใช้ในการแก้ปัญหาได้แก่
6.1 การแยกเด็กออกจากกลุ่มในช่วงเวลาสั้น ๆ
6.2 การแยกตัวของพ่อแม่ผู้ปกครอง
6.3 การห้ามไม่ให้เด็กทำสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับตัวเด็กในช่วงเวลาหนึ่ง
6.4 การตี จะใช้ก็ต่อเมื่อใช้วิธีการอื่นไม่ได้ผลแล้ว ไม่ควรทำกับเด็ก 2 ขวบ และไม่ควรกระทำอย่างรุนแรง
วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่ไม่เหมาะสม
วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่ไม่เหมาะสม มีดังนี้
1. การสั่งสอนไม่ควรเป็นการเทศนา เพราะจะทำให้เด็กเบื่อ ไม่สนใจใยดีที่จะฟัง ดังนั้นในการอบรมเลี้ยงดูพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องสอนด้วยเหตุผลสั้น ๆ อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย
2. การดุด่า ไม่ควรนำมาใช้เพราะจะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเกลียดพ่อ แม่ ผู้ปกครอง
3. การขู่ พ่อแม่ผู้ปกครองมักใช้คำขู่เด็กเมื่อมีความโกรธหรือเด็กไม่ยอมทำตาม หรือไม่เชื่อฟัง ดังนั้น ในการสอนหรืออบรมเด็กไม่ควรนำคำขู่มาใช้
4. การพูดเสียดสี เหน็บแนม หรือ ถากถาง ที่พ่อแม่ผู้ปกครองประสงค์ทำเพื่อประชดหรือให้เด็กได้เจ็บโดยหวังว่าเด็กจะมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น แต่ในข้อเท็จจริงแล้วกลับกลายเป็นการทำลายสัมพันธ์ภาพระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครองกับเด็ก
5. การสัญญา สัมพันธภาพระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็ก ควรอยู่บนพื้นฐานของความ เชื่อถือ เชื่อใจซึ่งกันและกันไม่ใช่การสัญญา
6. การติดสินบน จะทำให้เด็กทำดีเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ในระยะยาวแล้วจะไม่ได้ผล เพราะไม่สามารถติดตัวเด็กเป็นนิสัยได้
7. การหลอกหรือหยอกล้อเด็กในทางที่ไม่ควร เพื่อหวังผลให้เด็กหยุดพฤติกรรมที่กำลังทำอยู่ หรือเพื่อความสนุกสนาน นอกจากจะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกกลัวโดยไร้เหตุผลแล้ว ยังเป็นการขัดขวางความอยากรู้อยากเห็นของเด็กอีกด้วย
ทารกแรกเกิด 0-30 วันดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ
เมื่อแรกคลอดสัญชาตญาณของทารก คือการมีชีวิตรอด ทารกปกติจะมีทักษะการหายใจได้เองอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อแรกคลอดที่ตัดสายสะดือ เขาและคุณแม่ถูกแยกออกเป็นคนละคนแล้ว ยกเว้นในรายที่มีอาการผิดปกติร่วมด้วย ไม่สามารถหายใจได้เอง ทารกวัยแรกเกิดนี้ ประสาทสัมผัสทั้ง5 เริ่มทำงาน สามารถได้ยินเสียงจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้เป็นอย่างดี เพราะหูของเขารับรู้ได้ยินเสียงตั้งแต่เดือนที่ 7 ขณะอยู่ในครรภ์ รู้สึกร้อนหนาว ร้องเมื่อเปียก แฉะ หนาว หรือหิว ประสาทสัมผัส ทั้ง 5 ทำงานเกิอบปกติแล้ว ยกเส้นการมองเห็น เพราะทารกแรกเกิด – 30 วัน สามารถมองเห็นลางๆ คล้ายทีวีขาวดำ ระยะ 1 ฟุตเท่านั้น
ตรวจเช็คพัฒนาการ ทารกแรกเกิด
วัยแรกเกิดฉลาดที่จะเรียนรู้ – เมื่อแตะมุมปาก ลูกจะเผยอปากพร้อมกับหันหานิ้วที่แตะ ทำท่าเตรียมดูดนมได้
- คว้าจับได้หากบังเอิญมือไปแตะเข้ากับสิ่งของ
- หากแม่เอานิ้วมือไปสัมผัสบริเวณฝ่ามือของลูก ลูกจะค่อยๆ กำมือเข้าหา เมื่อดึงออก
การกระตุ้น พัฒนาการทารกแรกเกิด
- กระตุ้นด้วยการสัมผัสที่อบอุ่น
- กระตุ้นด้วยการนวดสัมผัส การนวดสัมผัส ทำให้ทารกผ่อนคลาย หลับสบาย อารามณ์ดีท้องไม่อืด
โภชนาการของ ทารกแรกเกิด
- นมแม่อย่างเดียว แรกเกิด – 2 วันแรกลูกอาจจะไม่ดูดนม หลับซะส่วนใหญ่เป็นพัฒนาการตามวัย เด็กแรกเกิด สามารถอยู่ได้ 24 ชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องรับประทานอะไรเลย เพราะทารกได้สระสมสารอาหารจากสายสะดือแม่ตอนที่อยู่ในครรภ์ พกติดตัวมาด้ว หรือเรียกกันว่า เด็กแรกเกิดพกปิ่นโตมาด้วย หาก 2 วันแรกทารกดูดนมน้อย นอนมาก อย่าตกใจ
- สำหรับทารก ที่ไม่สามารถดื่มนมแม่ได้ ไม่ว่าจะเหตุผลใๆก็ตาม ุแม่ควรให้ลูกได้รับนม ผงวันละ 6-8 มื้อ
- ไม่ต้องดื่มน้ำเพราะในนมแม่มีอัตราส่วนของน้ำผสมอยู่แล้ว
- สูตรคำนวณนมของทารกแรกเกิด 0-30 วัน
น้ำหนักลูกเป็นกิโลกรัม คูณ 150 ซีซี แล้วหาร 30 เป็นปริมาณนมใน 1 วัน แบ่ง 6 มื้อ
ตัวอย่างเคสแรกเกิด หนัก 3 กก. ครบ 1 เดือน ควรหนัก 3.6 แต่คำนวณง่ายๆ เอา 4 กก.คูณ 150 เท่ากับ 600 หาร 30 คือ 20 ออนซ์ + /- ได้ไม่เกิน 4 ออนซ์ ควรเเบ่งมื้อนมอออกเป้น 6-8มื้อ/วัน นะคะ ไม่ควรให้นมลูกมากเกิดนไปอาจทำให้เกิด Over feeding ได้
การดูเเลทุกเรื่องของทารกแรกเกิด ตลอด24ชั่วโมง
เมื่อลูกยังไม่ครบ 1 เดือน คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลอย่างไกล้ชิด วิธีการดูแลลูกน้อยอย่างถูกต้องเหมาะสม และสังเกตอาการที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนี้
- แหวะนม อาเจียน อาการดังกล่าวหากเกิดไม่ถี่จนเกินไป ถือว่าปกติ เกิดจากหูรูดกระเพาะอาหารทำงานไม่สมบูรณ์ หากบ่อยครั้ง อาเจียนพุ่ง ควรพบแพทย์ อาจมีภาวะกรดไหลย้อน หรือลำไส้กลืนกัน
- เด็กนมผสม ในรายที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ลูกกินนมผสม( นมผง) อาจมีปัญหามากกว่าเด็กนมแม่ เช่น ผื่นขึ้น ท้องอืด ถ่ายเหลว ถ่ายเป้นมูก ไม่ถ่าย แน่นอนลูกคุณแม่อาจแพ้โปรตีนในนมวัว ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด่วนค่ะ
- ท้องอืด หากลูกดูดลมเข้าไปเยอะ ควรให้เรอหลังดูดนมทุกครั้ง และอุ้มนาน 30 นาทีก่อนค่อยให้นอนลง
- การขับถ่ายปัสสาวะสีเข้มหรือไม่ การได้รับน้ำ หรือนมไม่เพียงพอทำให้ปัสสาวะสีเข้มได้ คุณแม่ควรใส่ใจลูกน้อยเรื่องนี้ด้วยค่ะ
- การขับถ่ายหากลูกกินนมแม่จะถ่ายอุจจาระบ่อย 48ชั่วโมงแรก ทารกจะมีอุจจาระที่ดำๆ เขียวๆ ที่เรียกว่า “ขี้เทา” มีลักษณะนุ่มเหนียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของทารกจากเมื่อตอนที่ยังอยู่ในท้องแม่ และจะถูกขับออกมาตามกระบวนการขับถ่าย หลังจากนั้นอุจจาระของลูกก็จะกลายเป็นสีเหลืองเอง
- ลิ้นเป็นผ้า หลังดื่มนม ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำนม เหงือก และลิ้น
- ร้องตลอดเวลา การร้องของลูกวัยนี้บ่งบอกถึง การไม่สุขสบาย คุณพ่อคุณแม่ต้องสำรวจว่า เปียก หิว หนาว ร้อน หรือมดแมลงกัดหรือเปล่า ค่อยๆสังเกตอย่าใจร้อนและตกใจกับเสียงของเจ้าตัวเล็ก
- เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปทุก 4 ชั่วโมง หรือเมื่อขับถ่ายอุจาระ สำหรับผ้าอ้อมผ้า เปลี่ยนทุกครั้งที่แฉะ เปียก
- อาบน้ำ วันละ 1 ครั้ง สระผมวันละ 1 ครั้ง ถ้าอาบน้ำตอนเช้า ตอนเย็นให้เช็ดตัว น้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำอุ่นเท่านั้น
- เปิดแอร์ได้ หากร้อน อุณภูมิห้องเด็ก ควรอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียส หากเปิดพัดลมไม่ควรสัมผัสทารกโดยตรง
- ถุงมือ ไม่ควรสมใส่ถุงมือตลอดเวลา เพราะเป็นการปิดกั้นพัฒนาการลูก เด็กวัยแรกเกิดหากใช้มือสัมผัสกับสิ่งรอบข้าง กำๆ แบๆ บ่อยๆ เป็นการเสริมสร้างเส้นใยประสาท เป้นการกระตุ้นที่ดีมาก
- ห่อตัว ไม่ควรห่อตัวลูกหากไม่จำเป็น เพราะเด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้แล้ว ห่อตัวเมื่ออกนอกบ้าน เช่นไปฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ เท่านั้น

การดูแลทารกแรกเกิดไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของคุณแม่อย่างคุณ เทคนิคการเลี้ยงลูกให้มีความสุขในช่วงวัยนี้คือ สังเกตุความต้องการและตอบสนองให้ตรงจุดเพราะเด็กแต่ละคนความต้องการแตกต่างกัน แค่นี้คุณก็เป็นคุณแม่มืออาชีพแล้ว
ประเมินตัวเอง ได้รู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กฐมวัย
ประเมินเพื่อน เพื่อนๆได้รู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กฐมวัย
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายวิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กฐมวัยได้ดี
ภาพบรรยากาศในห้องเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น